รีวิวแบ็คแพ็คเที่ยวเมืองน่าน ตอนที่ 3
ลืมเล่าให้ฟังครับ เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 58 มีโทรศัพท์โทรเข้ามาบอกภรรยาสุดที่รักของผมว่า จะมีทัวร์ไปเที่ยวหลวงพระบางทางจังหวัดน่าน ประจวบเหมาะพอดีที่เรากำลังจะมาที่น่าน วันนี้จึงต้องไปเตรียมเรื่องเอกสารผ่านแดนให้ลูกค้าครับ เช้านี้จึงต้องเดินทางไปด่านตรวจคนเข้าเมืองห้วยโก๋น โดยเหมารถสี่ล้อไปที่สถานีขนส่งน่าน 100 บาท และก็ซื้อตั๋วรถตู้โดยสาร น่าน – ห้วยโก๋น 95 บาท

มาถึงเช้าไป กว่ารถตู้โดยสารจะเทียบท่า ก็เลยหาอะไรกินที่ตลาดตั้งจิตนุสรณ์ 2 ก่อนครับ ตั้งอยู่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดน่านที่นี่เปิดแต่เช้า สาย ๆ ตลาดก็วายแล้วครับ

ที่ตลาดแห่งนี้มีอาหารการกินมากมาย ราคาถูก แต่ผมอยากกินต้มเลือดหมู ครับ เลยเดินไปที่ร้านหน้าสถานี (ต้มเลือดหมู+ข้าวเปล่า 2 ชุด ราคา 70 บาท)

และแล้ว 06.45 รถตู้โดยสารก็มาถึง คนขายตั๋วสายนี้ไม่รับจองหรือซื้อตั๋วล่วงหน้านะครับ เพราะว่าจะขายตั๋วให้ก็ต่อเมื่อรถตู้โดยสารมีที่นั่งว่างเท่านั้น (คนไปด่านห้วยโก๋นวันนี้เยอะ เกือบซื้อตั๋วรอบนี้ไม่ทันต้องรอไปอีก 1 ชม. ครับ)

ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ก็มาถึงที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองห้วยโก๋น แล้วก็ต้องไปติดต่อที่ด่านสากลน้ำเงิน เมืองไซยบุรี ครับ โดยนั่งรถโดยสารข้ามไปประมาณ 500 เมตร ราคา 20 บาท ต่อ คน/เที่ยว

ในใจผมล่ะอยากให้ทริปนี้ลากยาวไปถึงหลวงพระบางมากเลยครับ แต่ว่าวันหยุดไม่พอ แถมยังมีงานที่ค้างคาและกำหนดอบรมในวันที่ 6 อีก เฮ้อ !! (เย็นไว้ ๆ .. เรื่องงานต้องมาก่อน) หนาวนี้ไม่พลาดแน่ จะไปเที่ยวหลวงพระบาง ประเทศลาว แบบแบคแพคเกอร์ ผ่านทางด่านสากลน้ำเงิน เมืองไซยบุรี แห่งนี้แน่นอน สัญญา ครับ 🙂
หลังจากทำธุระเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขากลับ ไม่มีรถโดยสารกลับด่านไทยครับ (แย่แล้ว) รถโดยสารระหว่างด่านฯ ไม่เห็นสักคัน ถามตำรวจลาว ได้คำตอบว่า เค้าไปเบิ่งมวย เลยนึกได้ว่า วันนี้มีการถ่ายทอดสดมวย ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ vs แมนนี่ ปาเกียว คู่หยุดโลกจริง ๆ ครับ งั้นก็ตามน้ำครับ ขอดูมวยกับตำรวจลาวที่ป้อมเลยละกัน ปล.เพื่อน ๆ มีความคิดเห็นกับมวยคู่นี้ยังไงบ้างครับ 🙂

หลังจากมวยจบ ก็วานให้มอเตอร์ไซด์แถวนั้นไปส่งครับ คิดราคาเดียวกันกับรถโดยสาร 20 บาท ต่อ คน แล้วก็ซื้อตั๋วรถตู้โดยสารประจำทางกลับมาที่จังหวัดน่าน (ค่าตั๋วโดยสาร 95 บาท ต่อ 1 คน)
รถออกจากด่านห้วยโก๋นประมาณ 12.45 น. มีผู้โดยสารทั้งหมด 3 คน ถึงจังหวัดน่านประมาณ 16.00 น. แล้วก็เหมารถสี่ล้อไปโรงแรมเช่นเดิม แต่คราวนี้ 60 บาทครับ (ถูกกว่าเมื่อวาน 40 บาท..จัดไปให้ไว)
พอถึงโรงแรมเริ่มหิวแล้วสิครับ ไม่ได้กินข้าวเที่ยง เลยเดินไปตลาดสดที่หน้าโรงแรม (ทางเดียวกันกับตลาดเมื่อคืน แต่ว่าใกล้กว่า) มีอาหารสด และอาหารสุก (กับข้าวถุง) เยอะมาก น่าอร่อยทั้งนั้น

โดยเฉพาะร้านนี้ครับ ร้านแม่จันทร์ฉาย กันเองและใจดีมาก เห็นแล้วอยากกินเลย ซื้อแจ่วปลาป่น กับยำมะม่วง ระหว่างตักใส่ถุง ป้าแกชวนคุย พอรู้ว่าเป็นนักท่องเที่ยวจะซื้อไปกินบนห้องพักของโรงแรม จึงหยิบจาน 1 ใบ พร้อม ช้อนส้อม 1 คู่ แถมให้ด้วย น่ารักจริง ๆ ไม่งั้นผมก็ใช้มือกินคาถุงนั่นแหละครับ 🙂 (แจ่วปลาป่น+ยำมะม่วง ราคา 40 บาท) ปล.ใครแวะไปร้านนี้ ผมรบกวนฝากบอกป้าด้วยนะครับว่า อาหารอร่อยและให้เยอะมาก พร้อมทั้งขอบคุณสำหรับจานและช้อนส้อมครับ

หลังจากกินข้าวเสร็จ พระอาทิตย์ยังไม่ตกดิน ก็เลยลงมาเช่าจักรยานที่โรงแรม (70 บาท ต่อ 1 คัน) ปั่นเที่ยวเมืองน่าน แวะไปวัดศรีพันต้น วัดที่มีวิหารสีทองตั้งเด่นเป็นสง่า มีจิตรกรรมปูนปั้นพญานาคเจ็ดเศียรเฝ้าบันไดหน้าวิหารวัด ดูตระการตาสวยงามมากครับ

ตรงกันข้ามจะมี ร้านของหวานป้านิ่ม ร้านนี้เป็นร้านเก่าแก่ครับ ชื่อร้านมีอยู่ในเนื้อเพลง น่านนะสิ ของ ศุ บุญเลี้ยง ด้วย เลยทำให้อยากจะลองชิมขนมบัวลอยของร้านนี้ดู แต่ว่าน่าเสียดายครับ ขนมบัวลอย เริ่มขายตอน 18.00 น. เป็นต้นไป (ใครรู้เหตุผลช่วยบอกทีครับ ว่าทำไมไม่ขายตั้งแต่ร้านเปิดอ่า –a ) อีกตั้งครึ่งชั่วโมง งั้นไม่รอครับ เลยสั่งไอติมกับของหวานมากิน ( ไอติม 1 ลูก+ของหวาน 1 ถ้วย ราคา 60 บาท) แล้วปั่นจักรยานไปที่วัดหัวข่วงต่อครับ วัดนี้อยู่ตรงข้ามพิพิธภัณฑ์เมืองน่าน แถว ๆ ถนนคนเดินนั่นแหละครับ

วันนี้มีถนนคนเดินอีกวันก็แวะอีกสักวันครับ

วันนี้ที่วัดพระธาตุช้างค้ำมีพิธีปลูกฝ้าย ในงานปั่นฝ้าย สายบุญ จุลกฐิน ถิ่นเมืองน่าน ครั้งที่ 4 ครับ

แล้วก็แวะไปดูริมน้ำน่านซะหน่อย แถวนี้ก็มีร้านอาหารให้นั่งชมบรรยากาศน้ำน่านครับ แต่วันนี้อยากกินอาหารพื้นเมืองในตลาดมากกว่า ขากลับแวะตลาดซะหน่อยครับ

แล้วก็ปั่นมาหาซื้อกับข้าวที่ตลาดสดราชพัสดุหน้าโรงแรมกลับไปกินที่ห้องครับ เดินเข้าไปในตัวอาคารของตลาด แวะซื้อ ลาบหมูคั่ว หมกสมองหมู และข้าวเหนียว ร้านป้าเพท ครับ หลังจากสั่งกับข้าวแล้ว ก็มีคำถามกลับมาว่า ทำไมถึงมาเที่ยวน่านช่วงหน้าร้อน ผมอึ้งไปสักพัก แล้วก็ตอบกลับไปว่า หน้าหนาวเมื่อกี้ผมไปเชียงใหม่กับเชียงรายครับ ช่วงนี้หยุดหลายวันเลยมาเที่ยวเมืองน่าน ดูซิว่าที่นี่จะร้อนกว่าบ้านผมไหม แล้วหน้าหนาวปีนี้ผมจะมาอีกทีครับ หลังจากป้าได้รับคำตอบแล้ว ก็ตักลาบปลาดุก ให้ฟรีอีก 1 ถุง (น่ารักมากครับ แถมบอกเลยครับว่า อร่อยสุด ๆ ครับ ไม่เชื่อต้องไปลอง) ปล.ใครแวะไป ผมรบกวนฝากบอกป้าเพทด้วยนะครับว่า อาหารของป้าอร่อยถูกปากผมมาก ได้เยอะและราคาถูกด้วย (ลาบหมูคั่ว+หมกสมองหมู+ข้าวเหนียว ราคา 55 บาท)

อิ่มแล้วก็ดูทีวีสักพักแล้วก็ต้องรีบนอนครับ พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า ไปเที่ยวต่อที่พิษณุโลก คราวนี้ต้องเดินทางคนเดียวแล้ว เพราะภรรยาสุดที่รักของผมต้องไปพาลูกค้าไปทัวร์หลวงพระบาง (แล้วเจอกันที่อุดรธานี นะจ๊ะ)